รีวิว Samaritan

ท่ามกลางแวดล้อม ในยุคที่วงการหนังถูกรายล้อม ไปด้วยหนังประเภทซูเปอร์ฮีโร่ ผลิตออกมาต่อเนื่องอยู่รอบ ๆ รีวิวหนังเใหม่ ตัวเรา ถ้าหากว่าคุณยังไม่รู้สึกเอียน กับหนังแนวนี้ การมาอีกหนึ่งทางเลือกใหม่ของหนังฮีโร่เรื่องล่าสุดก็อาจจะสะดุดตา และสะกิดใจ ได้อยู่ไม่น้อย เพราะคือ ” Samaritan ” หนังแอคชั่นฮีโร่เรื่องล่าสุด ที่ได้แอคชั่นไอค่อนในตำนาน ” ซิลเวสเตอร์ สตอลโลน ” มาผงาดในฐานะฮีโร่ เต็มกายอย่างเป็นทางการ  ดูหนังฟรี ดูหนังออนไลน์   รีวิวหนัง 

รีวิว Samaritan เรื่องย่อ 

รีวิว Samaritan

เรื่องย่อ : เมื่อ 25 ปีก่อนโลกมีคู่แฝด เหนือมนุษย์ ที่เลือกเส้น ทางเดินคนละทางจน ต้องห้ำหั่นกัน ฝั่งหนึ่งอยากช่วยเหลือ ผู้คนแต่อีกฝั่งอยาก รีวิวหนังใหม่ชนโรงล้างแค้นสังคม ที่เคยขับไล่พวกเขา การปะทะกันครั้งนั้นทำให้ฝั่ง ตัวร้ายตาย และ ฮีโรฝั่งดีก็หายสาบสูญ ไปนับแต่นั้น จนถึงปัจจุบัน ผู้คนกลุ่มหนึ่ง ก็ยังเชื่อมั่น และ ตามหาเขาอยู่เสมอ
Samaritan เป็นเรื่องราวของ แซม เด็กชายวัย 13 ปี ที่กำลังหมกมุ่น อยู่กับการหาตัวตน ของซูเปอร์ฮีโร่ ของเมืองแกรนิตซิตี้ ที่ถูกเล่าขานต่อ มากันหลายปี อย่าง ซามาริทัน และเมื่อเขาได้สังเกต และ รวบรวมทฤษฎีต่าง ๆ ก็พบว่า โจ สมิธ คนเก็บขยะวัยดึก ที่พักอยู่อะพาร์ตเมนต์ ฝั่งตรงข้าม เข้าข่ายที่ทำให้แซมสงสัย ว่าเขาคนนี้จะเป็นฮีโร่ที่สาบสูญ ไปหลังจากเหตุความสูญเสียเมื่อ 20 กว่าปีก่อน และ บัดนี้เมืองที่เริ่มเน่าเฟะด้วยอาชญากรรม เพิ่มขึ้นทุกวัน ๆ มันยิ่งผลักดันทำให้แซม มีแพสชั่นที่อยากจะ ปลุกพลังให้ ซามาริทัน กลับมาผงาดและจัดแจงเมืองนี้ให้สะอาดน่าอยู่ยิ่งขึ้น
รีวิว Samaritan
หนังเดินเรื่องผ่านสายตา ของเด็กชายที่ชื่อ แซม นำแสดงโดยเจ้าหนู เจวอน ‘ วอนนา ’ วอลตัน ( Javon ‘Wanna’ Walton ) จาก ‘ The Umbrella Academy ’ ซึ่งเขาคลั่งใคล้ในเรื่องเล่าของสองพี่น้องยอดมนุษย์ฝาแฝดนาม ซามาริทัน และ เนเมซิส จนนำไปสู่การแอบติดตามคนเก็บขยะชรานามว่า โจ ที่น่าสงสัยว่าคือซามาริทันในอดีต รีวิวหนังน่าสนใจ
นอกจากฉากแอ็กชั่นแล้ว ตัวเรื่องก็ยังมีมุมดราม่าความสัมพันธ์ของแซมกับโจ ที่ตัวแซมเองเป็นเด็กน้อยที่มีความคิดอยากช่วยแม่หาเงิน แต่ก็เลือกทางผิดหลายครั้ง ตัวเรื่องทำให้เห็นว่าโจเองไม่พยายามเข้าไปช่วยมาก แต่ก็ปรามเมื่อแซมล้ำเส้นบางอย่างไป และการช่วยเหลือเล็กๆ น้อยๆ นี่เองที่ค่อยๆ เปลี่ยนให้แซมค่อยๆ เลือกเส้นทางที่ถูกต้องเองในภายหลัง และโจเองก็มีความผูกพันธ์กับแซมมากขึ้น เป็นดราม่าเล็กๆ ที่สอดแทรกตลอดเรื่องแบบค่อยๆ ซึมและทำได้ดีพอตัวเลยทีเดียว

รีวิวหลังดู 

รีวิว Samaritan

หนังปูปูมหลัง เรื่องซูเปอร์ฮีโรนี้ให้เราแต่ต้นผ่านบทเล่า คล้ายนิทานในสายตาของแซม ซึ่งดีตรงเราเข้าใจมิติ ตัวละครได้เร็ว ทั้งปมดราม่า ว่าพวกเขาในวัยเด็กเคยถูกรังเกียจ จากผู้คนเพราะพลังที่มากกว่าคนทั่วไป จนนำมาซึ่งการลุกฮือขับไล่ และ จบด้วยความตายของพ่อกับแม่ ของพวกเขา ในเหตุเพลิงไหม้ ทำให้เนเมซิส เลือกทางที่จะล้างแค้น ผู้คน และ ต้องปะทะกับซามาริทันที่เลือกทางช่วยเหลือผู้คน เหมือนสีขาวกับสีดำ จนเนเมซิส ได้สร้างอาวุธแห่งความแค้น ขึ้นมาเป็นค้อนที่สามารถฆ่าซามาริทันได้ นำมาสู่บทสรุปแสนเศร้าที่เนเมซิสตาย ส่วนซามาริทันก็เสียใจและหายตัวไปนับแต่นั้น
การเอาเด็ก มาจับคู่กับฮีโรเกษียณ ที่อดีตมีปม และ ปัจจุบันไม่อยากยุ่งเรื่อง ของใครอีกแล้ว อาจไม่ใช่พล็อตใหม่มาก นึกไว ๆ ก็อาจคาดหวังไปหนังดราม่าเข้ม ๆ แบบ ‘ Logan’ ( 2017 ) หรือถ้าไปทางหนังครอบครัว ก็มีอีกหลายเรื่องเลย ที่พอเทียบได้โดยแผลงไปทางสัตว์ประหลาดบ้าง มนุษย์ต่างดาวบ้าง ซึ่งชูตกับเอเวอรีก็รู้ดีพวกเขามีทางเลือกการนำเสนอมากมาย ให้เป็นหนังดราม่าว่าด้วยเรื่องคนแก่ผ่านมุมมองของโจก็ได้ ให้ไปทางหนังแฟนตาซีติดตลกผ่านสายตาแซมก็ได้ หรือจะไปทางหนังซูเปอร์ฮีโรสมัยนิยมระเบิดเถิดเทิงหรือธริลเลอร์เข้มข้นชวนตั้งคำถามก็ได้ แต่สิ่งที่ผู้สร้างเรื่องนั้นน่าสนใจทีเดียว
พวกเขามีธีม ที่อยากนำเสนออยู่ในเรื่องของอะไรคือสีขาวหรือสีดำ ทุกคนต่างมีเหตุผลในการกระทำ และ ต้องยอมรับผลที่ตามมา มนุษย์ล้วนเทา และ ไม่ได้ยึดถือเฉดใดเฉดหนึ่งไว้กับตัวตลอดชีวิต ในห้วงเวลาหนึ่งเขาอาจเทาเข้มในช่วงหนึ่งเขาอาจเทาอ่อนมาก ๆ และ เมื่อหนังมีธีมเช่นนี้มันจึงอาจเป็นตัวเลือกที่ดีที่จะเน้นดารานักบู๊ที่ดูดราม่าได้และมีความเก๋าให้คนยำเกรงพอตัวอย่างสตอลโลน ซึ่งก็ต้องยอมรับ ว่าบารมีของป๋าแกยังทำงานได้ดีสายตาเศร้า ๆ นิ่ง ๆ แต่น่าเกรงขามยังแผ่ออกมาจากการแสดงของแกได้ดี เมื่อเข้าคู่กับดาราเด็กที่มาแนวซนดื้อแต่ยังพอน่ารักก็ทำให้หนังมีเคมีที่ดีได้ ในแนวหนังดราม่าผสมแนวครอบครัวนิด ๆ
รีวิวSamaritan
หนังเป็นผลงานการกำกับของ จูเลียส เอเวอรี ( Julius Avery ) ที่เคยมีผลงานเด่นแบบโหดเข้มในหนังซอมบี้นาซีเรื่อง ‘Overlord’ (2018) ซึ่งแม้จะไม่ได้ขึ้นหิ้งแต่ก็น่าจับตามองให้ติดตามผลงานต่อไม่น้อย ยิ่งเรื่องนี้ได้มือเขียนบทอย่าง บราจี เอฟ. ชูต (Bragi F. Schut) ที่เคยมีผลงานอย่าง ‘Escape Room’ ทั้ง 2 ภาค รวมถึงทีวีซีรีส์แฟรนไชส์ ‘Ninjago’ ซึ่งแสดงให้เห็นว่าเขาเป็นมือเขียนบทที่มีไอเดียที่ชวนติดตาม ก็ถือว่าน่าสนใจทีเดียวในการจับคู่กันครั้งนี้
ในยุคที่หนังแนวนี้เกลื่อนตลาดแล้ว การที่เรื่องนี้จะฉีกออกไปได้ก็ต้องมีพล็อตที่ดีก่อน เรื่องนี้จึงฉีกตัวเองมาเล่าเรื่องของซูเปอร์ฮีโร่วัยชราที่เกษียณตัวเองหลบลี้หนีผู้คนมาอยู่อย่างสันโดษ และไม่พยายามไม่กลับไปเป็นแบบ ตัวเองในอดีต ซึ่งนี่เป็นความลับสำคัญของเรื่องนี้ว่าทำไม เพราะอะไร แม้ตัวเด็กในเรื่องอย่างแซม (แสดงโดย Javon ‘Wanna’ Walton) จะพยายามอ้อนวอนให้เขากลับมาช่วยเมืองยามที่เกิดวิกฤต แต่โจ หรือ ซามาริทันเองกลับคิดต่างออกไป ซึ่งตัวเรื่องจะค่อยๆ เผยให้เห็นฉากในอดีตที่เป็นตำนานเล่าขานของเมืองว่าซามาริทันช่วยเหลือชาวเมืองจากตัวร้ายเจเนซิสที่เป็นแฝดน้องมีพลังแบบเดียวกับเขาไว้ได้ ซึ่งเหตุการณ์นี้เองคือจุดพลิกผันชีวิตของโจและก็ทำให้ความคิดเรื่องการเป็นซูเปอร์ฮีโร่คืออะไรที่ผิดพลาดสิ้นดีในมุมของเขา
รีวิวSamaritan
ตัวเรื่องมีมุมมอง ที่ค่อนข้างดูเรียลมากว่าโลกนี้ไม่ควรมีใครมาทำตัวเป็นซูเปอร์ฮีโร่ ซึ่งเหตุผลในเรื่อง ก็ถือว่าสมเหตุผลเลย เพียงแต่มันไม่ได้ใหม่นักในยุค ที่มีฮีโร่สายดาร์คฉีกกรอบไปมากมายแล้วเช่นกัน อย่างเดอะบอย หรือแม้แต่แบทแมนเวอร์ชั่น โนแลนก็ด้วย พลังอันยิ่งใหญ่กลายเป็นปัญหาให้กับสังคมมากกว่า ตัวร้ายที่ทำลายเมืองเสียอีก แต่คอนเซ็ปต์อันนี้มันถูกทำมาให้อยู่ในรูปฮีโร่วัยเกษียณติดดิน ทำงานเก็บขยะไปวันๆ หาของมาซ่อมแซมเอาไปขาย ซึ่งดูเข้ากันดีเลย แต่ก็ทำให้สเกลของเรื่องเล็กลง จำกัดวงแคบแค่ในเมืองสมมุติอย่างในเรื่องเท่านั้น ซึ่งทุนสร้างที่น้อยก็มีส่วนด้วยเช่นกัน
ดูจากจุดแข็งของหนัง จริงแล้วมันควรขายหน้าหนังว่า จะเล่นดราม่าและต้องการขายความเชยโดยตั้งใจ เพื่อชูช่วงเวลาที่ทอดยาวและเน้นไปที่ธีมความขัดแย้ง เชิงความคิดเรื่องดีชั่วผ่านตัวพระเอกและตัวร้าย อาจจะเล่าผ่านสายตาเด็ก เพื่อให้หนังดูซอฟต์ลง แต่ที่มันพลาดคือหน้าหนังมันคลุมเครือ แบบเหยียมแคมเรือฝั่งซูเปอร์ฮีโรแบบตลาดนิยมด้วยฉากระเบิดตึกเผาเมืองไว้ด้วยนั่นเอง
รีวิวSamaritan
จุดเด่น
ธีมที่น่าสนใจชวนคิด การแสดงที่ดีของทั้งซิลเวสเตอร์ สตอลโลนและเจ้าหนูเจวอน วอลตัน การเล่าเรื่องไม่ซับซ้อนยุ่งยากดูได้เพลิน มีฉากแอ็กชันสวย ๆ อยุ่
ข้อมูลเกี่ยวกับหนัง Samaritan
ประเภท: แอคชั่น / แฟนตาซี / ดราม่า
ผู้กำกับ: จูเลียส เอเวอรี่
นำแสดงโดย: ซิลเวสเตอร์ สตอลโลน, จาวอน วอลตัน, พิลู แอสเบ็ค
ความยาว: 102 นาที
กำหนดฉายในไทย: 26 สิงหาคม 2022 (ที่ Prime Video)

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *